ว่ากระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามออกแถลงการณ์ เมื่อวันอังคาร เกี่ยวกับแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชน ว่าเตรียมเตรียมฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ซึ่งพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ เป็นเข็มที่สอง ให้กับผู้ที่ก่อนหน้านั้นประมาณ 8-12 สัปดาห์ ได้รับวัคซีนเข็มแรกของแอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด ซึ่งพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีไวรัล เวกเตอร์
ทั้งนี้ แคนาดา สเปน และเกาหลีใต้ ใช้วิธีการแบบเดียวกับเวียดนามมานานระยะหนึ่งแล้ว โดยเหตุผลหลักยังคงเป็นความกังวลเรื่องอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนของแอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบไหลเวียนโลหิต ส่วนรัฐบาลเกาหลีใต้ให้เหตุผลเรื่องความล่าช้าในการจัดส่งวัคซีนด้วย และยืนยันว่าการสลับวัคซีนลักษณะนี้ยังจำกัดเฉพาะกับบุคลากรการแพทย์เท่านั้น เนื่องจากเป็นด่านหน้าของการเผชิญกับเชื้อไวรัสโคโรนา
อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ยังคงมีความกังวลเรื่องการใช้วัคซีนสองโด๊สต่างยี่ห้อ และการฉีดวัคซีนกระตุ้น หรือ “บูสเตอร์” โดยวัคซีนโด๊สที่สามเป็นคนละประเภทกับวัคซีนสองโด๊สแรก เนื่องจาก “ผลการศึกษายังไม่กว้างขวางมากพอ”